แผนงานด้าน Food Safety, Food Defense และ Food Fraud แตกต่างกันอย่างไร และวิธีลดความเสี่ยงการปลอมปนอาหารจากวัตถุดิบ How Food Safety, Food Defense, and Food Fraud Plans Differ, and How to Reduce the Risk of Food Adulteration from Ingredients

November 29, 2024

แผนงานด้าน Food Safety vs Food Defense vs Food Fraud แตกต่างกันอย่างไร

Food safety plan
คือแผนงานด้านความปลอดภัยด้านอาหาร เพื่อป้องกันอันตรายไม่ให้ปนเปื้อนสู่อาหารที่มาในรูปแบบของการไม่เจตนา เช่น
- การกำหนดแผนงานด้านความปลอดภัยอาหารเพื่อป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรค ยาฆ่าแมลง หรือเศษหินที่มากับวัตถุดิบทางการเกษตร
- การกำหนดแผนงานด้านความปลอดภัยอาหารเพื่อป้องกันการหลงเหลือของเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคจากการฆ่าเชื้อไม่สมบูรณ์
- การกำหนดแผนงานด้านความปลอดภัยอาหรเพื่อป้องกันการปนเปื้อนข้ามของสารก่อภูมิแพ้ในอาหารจากการทำความสะอาดที่ไม่มีประสิทธิภาพหลังจากเปลี่ยนสูตรการผลิต เป็นต้น

Food defense plan
คือแผนงานเพื่อป้องกันอันตรายไม่ให้ปนเปื้อนสู่อาหาร จากการเจตนาหรือการประสงค์ร้ายโดยมีแรงจูงใจด้านพฤติกรรมส่วนบุคคลจงใจใส่เข้าไปหรือต้องการทำให้เสียชื่อเสียง เช่น
- การกำหนดแผนงานเพื่อป้องกันการตั้งใจหรือจงใจทำให้อาหารไม่ปลอดภัยโดยบุคคลภายในองค์กร
- การกำหนดแผนงานเพื่อป้องกันการตั้งใจหรือจงใจทำให้อาหารไม่ปลอดภัยโดยบุคคลภายนอกองค์กร เป็นต้น

Food fraud mitigation plan
คือแผนงานเพื่อป้องกันการปลอมปนของอาหารจากการตั้งใจหรือจงใจในการปลอมปน โดยมีแรงจูงใจด้านเศรษฐกิจ ราคา ความต้องการในตลาด เป็นต้น เช่น
- การกำหนดแผนงานเพื่อป้องกันการปลอมปนของอาหารในวัตถุดิบที่รับจากผู้ขาย
- การกำหนดแผนงานเพื่อป้องกันการปลอมปนของอาหารภายในองค์กร เป็นต้น

2. ทำอย่างไรถึงจะลดความเสี่ยงด้านการปลอมปนอาหารจากวัตถุดิบได้
การใช้วัตถุดิบที่มีการปลอมปนหรือไม่เป็นของแท้ในการผลิตอาหาร นอกจากจะทำให้คุณภาพผลิตภัณฑ์ที่ได้ผลิตนั้นมีความไม่สม่ำเสมอ ไม่เป็นไปตามมาตรฐานสินค้าที่กำหนด ส่งผลต่อความพึงพอใจของลูกค้าและความน่าเชื่อถือของบริษัทแล้ว อาจส่งผลต่อการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายอาหารที่เกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน
การกำหนดแผนงานหรือระบบการทำงานเพื่อป้องกันการปลอมปนของอาหารจะช่วยลดความเสี่ยงจากการปลอมปนของวัตถุดิบได้

แล้วการจัดทำแผนงานหรือระบบการทำงานเพื่อป้องกันการปลอมปนของวัตถุดิบจะมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ?
1. การแต่งตั้งทีมเพื่อรับผิดชอบดูแลแผนงานที่มีความเข้าใจเกี่ยวกับวัตถุดิบที่ใช้และหลักการการประเมินความเสี่ยงของอาหารปลอม
2. จัดทำระเบียบปฏิบัติวิธีการทำงานที่ครอบคลุมถึงช่องทางในการเข้าถึงข้อมูล/ข่าวสารการปลอมปน แนวทางหรือวิธีการที่ใช้ในการประเมินความเสี่ยง การกำหนดมาตรการควบคุมหรือจัดการกับความเสี่ยง การทบทวนผลการประเมินความเสี่ยง เป็นต้น
3. ดำเนินการประเมินความเสี่ยงตามแนวทางหรือวิธีการที่กำหนด เช่นการพิจารณาจากปัจจัยเสี่ยงด้านต่างๆ (ประวัติการปลอมปน ปัจจัยทางเศรษฐกิจ ความยากง่ายในการเข้าถึงห่วงโซ่ของวัตถุดิบ ความสามารถในการตรวจทดสอบการปลอมปน ธรรมชาติของวัตถุดิบ เป็นต้น) หรือพิจารณาร่วมกับปัจจัยด้านความรุนแรงหรือผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นหากเกิดการปลอมปน เป็นต้น
4. ดำเนินการ/จัดการกับความเสี่ยงด้านอาหารปลอมปนตามมาตรการควบคุมที่ได้กำหนดขึ้น เช่นการตรวจทดสอบการปลอมปนในวัตถุดิบที่มีความเสี่ยงสูง การควบคุมกระบวนการผลิตและขนส่ง การตรวจประเมินผู้ขาย เป็นต้น
5. ทบทวนผลการประเมินความเสี่ยงตามความถี่ที่กำหนดหรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุดิบ

3. 4Q ตามหลักการ CCP Decision Tree จาก GHPs/HACCP Codex Alimentarius (Revision 2022) และเวอร์ชั่นเดิมต่างกันอย่างไร

ไตรมาสที่ 4 ตามสวนสาธารณะ CCP Decision Tree จาก GHPs/HACCP Codex Alimentarius (แก้ไข 2022)

อ้างอิง
*ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กาหนดมาตรฐานสินค้าเกษตร: ระบบการวิเคราะห์อันตรายและจุดวิกฤตที่ต้องควบคุมและแนวทางการนาไปใช้ ตามพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. ๒๕๕๑
**ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กาหนดมาตรฐานสินค้าเกษตร: ระบบการวิเคราะห์อันตรายและจุดวิกฤตที่ต้องควบคุมและแนวทางการนาไปใช้ (ฉบับที่ ๒) ตามพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. ๒๕๕๑

องค์กรจะประยุกต์ใช้คำถามตามหลักการ CCP Decision Tree จาก GHPs/HACCP Codex Alimentarius (Revision 2022) ได้อย่างไร?
ก่อนที่จะเริ่มประยุกต์ใช้คำถามทั้ง 4 นี้ ทีมงานความปลอดภัยอาหาร (HACCP Team/Food Safety Team) ต้องมีความรู้ ความเข้าใจในหลักการก่อน ทั้งนี้การฝึกอบรม HACCP Team จะช่วยให้ทีมงานมีความเข้าใจและสามารถประยุกต์ใช้คำถามตามหลักการได้อย่างถูกต้อง และสามารถหาจุดวิกฤตที่ต้องควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เกี่ยวกับ SGS

เอสจีเอส บริษัทชั้นนำของโลก ด้านการทดสอบ การตรวจสอบและรับรองระบบ เราดำเนินงานผ่านเครือข่ายห้องปฏิบัติการและสถานประกอบการกว่า 2,700 แห่งใน 119 ประเทศ โดยมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญกว่า 99,250 คน ที่พร้อมให้บริการด้วยประสบการณ์การที่เป็นเลิศมากกว่า 145 ปี เราผสมผสานความแม่นยำและความถูกต้องซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของบริษัทสวิส เพื่อช่วยให้องค์กรต่างๆ บรรลุมาตรฐานสูงสุดในด้านคุณภาพ ความปลอดภัย และการปฏิบัติตามข้อกำหนด

คำมั่นสัญญาเราที่ว่า เมื่อคุณต้องการความมั่นใจ (when you need to be sure) สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในเรื่องความน่าเชื่อถือ ความซื่อสัตย์ และความไว้วางใจ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างมั่นใจ เราภูมิใจที่ได้มอบบริการที่เชี่ยวชาญของเราภายใต้ชื่อเอสจีเอสและแบรนด์เฉพาะทางที่ได้รับความไว้วางใจ เช่น Brightsight, Bluesign, Maine Pointe และ Nutrasource

เอสจีเอสเป็นบริษัทมหาชนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ SIX Swiss Exchange ภายใต้สัญลักษณ์ SGSN (ISIN CH0002497458, Reuters SGSN.S, Bloomberg SGSN:SW)