ความเปลี่ยนแปลงของมาตรฐานโกลบอลแกป (GLOBALG.A.P.) จากเวอร์ชั่น IFA 5 สู่ เวอร์ชั่น IFA 6 Changes in the GLOBALG.A.P. Standard from Version IFA 5 to Version IFA 6

November 29, 2024

ความเปลี่ยนแปลงของมาตรฐานโกลบอลแกป (GLOBALG.A.P.) จากเวอร์ชั่น IFA 5 สู่ เวอร์ชั่น IFA 6
- โปรแกรม Non-GFSI เปลี่ยนจาก IFA 5.2 เป็น IFA 6 Smart ส่วนโปรแกรม GFSI จะเปลี่ยนจาก IFA 5.4 GFS เป็น IFA 6 GFS
- ข้อกำหนด IFA 6 Smart บังคับใช้ตรวจเริ่ม 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป แต่ IFA 6 GFS ยังไม่ได้รับการประกาศบังคับใช้ (คาดว่าน่าจะประมาณกลางปี 2567)

- Parallel ownership: การปลูกพืชสินค้าชนิดเดียวกันในพื้นที่เดียวกันแต่ขอตรวจรับรองเพียงบางส่วนจะไม่สามารถทำได้ และหากมีการปลูกหรือซื้อพืชสินค้าที่ไม่ได้ตรวจรับรองจากแหล่งอื่น ซึ่งเป็นสินค้าชนิดเดียวกันกับที่ได้ตรวจรับรองนั้น ต้องมีการแยกสินค้าไม่ให้ปะปนกัน และต้องติดฉลากเลข GGN บนบรรจุภัณฑ์สินค้าที่พร้อมขายด้วยโดยไม่ว่าสินค้านั้นจะเป็นสินค้าบรรจุขายแก่ผู้บริโภคหรือไม่ก็ตาม

Parallel ownership ผลิตภัณฑ์ที่ขอการรับรอง

- Unannounced audit: การสุ่มตรวจ 10% แบบไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ของผู้ที่ได้ใบรับรองแล้วนั้น จะเปลี่ยนจากสุ่มเพิ่มตอนตรวจระหว่างปีหลังได้รับรอง มาเป็นสุ่มตอนตรวจต่ออายุประจำปี (ทั้ง Option 1 และ 2) ทั้งนี้กฎการแจ้งล่วงหน้า 48 ชั่วโมง ก่อนตรวจจะยังคงเดิมสำหรับกรณี IFA 6 Smart แต่สำหรับ IFA 6 GFS จะยกเลิกการแจ้งล่วงหน้านี้

- การสุ่มตรวจผู้ผลิตแบบกลุ่ม Option 2 และ ผู้ผลิตแบบเดี่ยว Option 1 Multisite with QMS: โปรแกรม IFA Smart จะใช้หลักการสุ่มโดยถอด Square root ของจำนวนทั้งหมดเหมือนเดิม แต่โปรแกรม IFA 6 GFS จะสุ่มโดยดูจากความเสี่ยงของชนิดพืชสินค้าและกระบวนการจัดการสินค้าแต่ละชนิด หากจัดเป็นระดับเสี่ยงสูงจะได้รับการตรวจ 100 % โดยไม่มีการสุ่ม
- มีการปรับเปลี่ยนจำนวนข้อกำหนดของฟาร์ม รวมทั้งระดับความเข้มงวดของแต่ละข้อใหม่ทั้งหมดจากเดิม

- ตัวอย่างเนื้อหาที่เพิ่มเติมในเวอร์ใหม่ เช่น การกำหนดเงื่อนไขสเปคของวัสดุปัจจัยที่ใช้ในการเพาะปลูกรวมทั้งบริการต่างๆ, วัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้สัมผัสกับสินค้าต้องปลอดภัย, การจัดการสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้, การเปลี่ยนพื้นที่ป่าสงวนมาเป็นพื้นที่ปลูก หลังปี 2014, การจัดการลดภาวะเรือนกระจก GHG, โปรแกรมติดตามคุณภาพด้านเชื้อจุลินทรีย์ในสภาพแวดล้อม, และ อื่นๆ เป็นต้น

หัวใจหลักความสำคัญของมาตรฐานโกลบอลแกป (GLOBALG.A.P.)
ให้ความสำคัญในความปลอดภัยของ ผลผลิตสินค้า ผู้ปฏิบัติงาน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น
- ผลผลิตสินค้า ต้องเก็บเกี่ยวอย่างถูกสุขอนามัยเพื่อลดการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ และเก็บเกี่ยวเมื่อพ้นระยะปลอดภัยตามที่กำหนดไว้หลังมีการฉีดพ่นสารเคมี เพื่อลดการตกค้างในผลผลิต รวมทั้งพิจารณาการใช้สารเคมีเท่าที่จำเป็นตามความเหมาะสม
- คนปฏิบัติงาน ต้องสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายจากสารเคมี และถูกสุขอนามัย รวมทั้งระมัดระวังในการทำงานเพื่อลดอุบัติเหตุ
- สิ่งแวดล้อม การเพาะปลูกและการทำกิจกรรมใดๆ ในแปลงเพาะปลูก ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ไม่เผาทำลาย ไม่ใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตที่เป็นประโยชน์ในพื้นที่ปลูก หรือ อื่นๆ เป็นต้น
จากหัวใจหลักความสำคัญข้างต้น ส่งผลถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการตรวจรับรองระบบมาตรฐานโกลบอลแกป คือ ลดความเสี่ยงด้านความไม่ปลอดภัยของอาหาร, ลดต้นทุนในการจัดการเพาะปลูกเพื่อให้ได้ผลิตที่ดี, เพิ่มระดับความมั่นใจแก่ลูกค้าหรือผู้บริโภคด้านการรับประกันคุณภาพของฟาร์มระดับนานาชาติ, เพิ่มระดับสุขภาพ สวัสดิภาพ และความปลอดภัยแก่คนปฏิบัติงาน รวมทั้งเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในพื้นที่

เกี่ยวกับ SGS

เอสจีเอส บริษัทชั้นนำของโลก ด้านการทดสอบ การตรวจสอบและรับรองระบบ เราดำเนินงานผ่านเครือข่ายห้องปฏิบัติการและสถานประกอบการกว่า 2,700 แห่งใน 119 ประเทศ โดยมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญกว่า 99,250 คน ที่พร้อมให้บริการด้วยประสบการณ์การที่เป็นเลิศมากกว่า 145 ปี เราผสมผสานความแม่นยำและความถูกต้องซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของบริษัทสวิส เพื่อช่วยให้องค์กรต่างๆ บรรลุมาตรฐานสูงสุดในด้านคุณภาพ ความปลอดภัย และการปฏิบัติตามข้อกำหนด

คำมั่นสัญญาเราที่ว่า เมื่อคุณต้องการความมั่นใจ (when you need to be sure) สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในเรื่องความน่าเชื่อถือ ความซื่อสัตย์ และความไว้วางใจ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างมั่นใจ เราภูมิใจที่ได้มอบบริการที่เชี่ยวชาญของเราภายใต้ชื่อเอสจีเอสและแบรนด์เฉพาะทางที่ได้รับความไว้วางใจ เช่น Brightsight, Bluesign, Maine Pointe และ Nutrasource

เอสจีเอสเป็นบริษัทมหาชนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ SIX Swiss Exchange ภายใต้สัญลักษณ์ SGSN (ISIN CH0002497458, Reuters SGSN.S, Bloomberg SGSN:SW)