Per- and polyfluoroalkyl substances (PFAS) เป็นกลุ่มสารเคมีสังเคราห์ที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลายตั้งแต่ปี 1940 ในผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค รวมถึงในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย มักจะถูกเรียกว่า “สารเคมีตลอดกาล” เนื่องจากตกค้างอยู่ในสิ่งแวดล้อม ในปัจจุบัน PFAS หลายชนิดมีเชื่อมโยงกับความเสี่ยงต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น สำหรับเครื่องสำอาง PFAS มักถูกใช้เป็น Emulsifiers, stabilizers และ film-forming agent เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ PFAS สามารถถูกพบได้ในทุกผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ เครื่องสำอางตกแต่งสี (รองพื้น, ลิปสติก, มาสคาร่า เป็นต้น) ไปจนถึงผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และ ครีมนวดผม ไม่ว่าจะถูกใส่เข้ามาอย่างตั้งใจหรือไม่ตั้งใจจากกระบวนการทางเคมีก็ตาม
ในขณะที่การตรวจสอบเข้มข้นขึ้นและมาตรฐานการกำกับดูแลระดับโลกเข้มงวดยิ่งขึ้น แบรนด์ต่างๆจำเป็นต้องแสดงท่าทีอย่างชัดเจน เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์มีความปลอดภัยและเป็นไปตามข้อกำหนด
ทำไม PFAS ในเครื่องสำอางถึงน่าเป็นกังวลมากขึ้น
การมีอยู่ของ PFAS ในเครื่องสำอางเป็นอะไรที่มากกว่าปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่คือปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญมาก สารเคมีสังเคราะห์เหล่านี้ไม่สามารถสลายตัวได้ง่ายๆในสิ่งแวดล้อมหรือในร่างกางมนุษย์ และจากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น เชื่อมโยงการสัมผัสสาร PFAS กับผลกระทบต่อสุขภาพที่ไม่พึงประสงค์มากมาย รวมถึงการกดภูมิคุ้มกันของร่างกาย การรบกวนการทำงานของฮอร์โมน (เช่น ฮอร์โมนไทรอยด์และฮอร์โมนเพศ) ปัญหาการเจริญพันธุ์และพัฒนาการที่ลดลง ความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งบางชนิดที่เพิ่มขึ้น และความเสียหายของตับ
ด้วยคุณสมบัติที่แพร่หลาย ความทนทาน และความสามารถในการสะสมเมื่อเวลาผ่านไป แม้การสัมผัสสาร PFAS เพียงเล็กน้อยจากการใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายที่มีส่วนผสมของ PFAS ซ้ำๆ กัน ก็อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพในระยะยาวได้ สิ่งนี้จึงทำให้สาร PFAS กลายเป็นประเด็นสำคัญที่หน่วยงานกำกับดูแล ผู้นำในอุตสาหกรรม และผู้สนับสนุนด้านสุขภาพให้ความสำคัญ
กฎระเบียบที่ต่อต้าน PFAS
หน่วยงานกำกับดูแลจากทั่วโลกกำลังดำเนินการอย่างเด็ดขาดเพื่อจำกัดและดูแลการใช้ PFAS ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย
ในประเทศฝรั่งเศส ร่างกฎหมายอยู่ภายใต้การพิจารณามีเป้าหมายเพื่อห้ามการผลิต นำเข้า ส่งออก และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีสาร PFAS ซึ่งรวมถึงสาร PFAS ในเครื่องสำอางด้วย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2569 เป็นต้นไป แม้ว่าจะมีการแก้ไขเพิ่มเติมเพื่ออนุญาตให้มีปริมาณสาร PFAS ในปริมาณเล็กน้อย แต่คาดว่าจะมีการกำหนดเกณฑ์ความเข้มข้นที่เฉพาะเจาะจงโดยพระราชกฤษฎีกา ข้อจำกัดเหล่านี้ทำให้ PFAS สอดคล้องกับสารอันตรายอื่นๆ ที่ถูกห้ามใช้อยู่แล้วภายใต้กฎระเบียบเครื่องสำอางและการขึ้นทะเบียน การประเมิน การอนุญาต และการจำกัดสารเคมี (REACH)
ในสหรัฐอเมริกา the Modernization of Cosmetics Regulation พ.ศ. 2565 (MoCRA) กำหนดให้มีการประเมินความปลอดภัยของสาร PFAS ในเครื่องสำอางของรัฐบาลกลาง ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในสามปีหลังจากประกาศใช้กฎหมาย อย่างไรก็ตาม หลายรัฐกำลังดำเนินการอย่างรวดเร็วขึ้นและได้ออกกฎระเบียบที่ส่งผลกระทบต่อเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย
นอกจากนี้ หลายรัฐได้ออกพระราชบัญญํติควบคุมสาร PFAS ซึ่งส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลร่างการ ซึ่งรวมถึงรัฐแคลิฟอร์เนีย โคโลราโด แมริแลนด์ และมินนิโซตา ซึ่งได้ออกพระราชบัญญัติห้ามจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสาร PFAS โดยเจตนาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 กฎหมายที่คล้ายคลึงกันนี้ได้ถูกประกาศใช้ในรัฐอื่นๆ เช่น ฟลอริดา ฮาวาย อิลลินอยส์ ไอโอวา นิวยอร์ก และโอเรกอน
ทั่วทั้งสหภาพยุโรป the European Chemicals Agency (ECHA) กำกับดูแลการบังคับใช้กฎระเบียบ REACH และ Persistent Organic Pollutants (POP) ระหว่างเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ถึงเดือนเมษายน พ.ศ. 2567 บนเวทีบังคับใช้ของ ECHA ได้นำโครงการตรวจสอบนำร่องใน 13 ประเทศในเขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA) การตรวจสอบพบว่า 6% ของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ได้รับการตรวจสอบมีสารที่จัดว่าเป็นสารอันตรายและไม่เป็นไปตามข้อกำหนด REACH ซึ่งตอกย้ำถึงความสำคัญของการเฝ้าระวังที่เพิ่มขึ้นและการบังคับใช้กฎระเบียบปัจจุบันอย่างเข้มงวด
ผู้บริโภคผลักดันเรื่อง Clean Beauty
ในขณะที่กฎระเบียบเข้มงวดขึ้น ความคาดหวังของผู้บริโภคก็เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย กระแส “Clean Beauty” ยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ซื้อให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ และมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ปราศจากสารเคมีอันตรายอย่าง PFAS อย่างแท้จริง แบรนด์ที่เป็น Clean beauty หลายแห่งและผู้ค้าปลีกที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลได้สั่งห้ามใช้ PFAS ในสูตรผลิตภัณฑ์และรายการผลิตภัณฑ์ของตนแล้ว ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านความรับผิดชอบทางจริยธรรมและความต้องการของตลาด
การปฏิบัติตาม PFAS ในเครื่องสำอางกับ SGS
เนื่องจากกฏระเบียบของ PFAS เข้มงวดมากขึ้นท่ามกลางตลาดโลก การรับรองว่าผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของคุณปลอดภัยและเป็นไปตามมาตรฐานจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด เราเป็นผู้นำด้านการทดสอบ PFAS พร้อมนำเสนอแนวทางที่เชื่อถือได้และขับเคลื่อนด้วยวิทยาศาสตร์ เพื่อช่วยให้คุณก้าวทันกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงไปและความคาดหวังของผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้น
บริการทดสอบที่ปรับเปลี่ยนตามความต้องการของลูกค้า ช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถระบุและวัดปริมาณสารประกอบ PFAS ได้อย่างแม่นยำ มั่นใจได้ถึงความโปร่งใสและสอดคล้องกับข้อกำหนดที่เข้มงวดที่สุด วิธีทดสอบหลักสองวิธีของเรามีดังนี้:- Liquid chromatography – tandem mass spectrometry (LC-MS/MS): ตรวจจับและวัดปริมาณ ของ PFAS ชนิดที่ทราบ
- Ion chromatography สำหรับฟลูออรีนทั้งหมด: วัดปริมาณฟลูออรีนทั้งหมดเพื่อระบุสารประกอบฟลูออรีนที่รู้จักและไม่รู้จัก

SGS ผู้นำระดับโลกด้านการทดสอบคุณภาพ
เราคือผุ้เชี่ยวชาญด้านการทดสอบสาร PFAS มายาวนานหลายทศวรรษ พร้อมด้วยความรู้ความเข้าใจเชิงลึกด้านกฎระเบียบ เพื่อสนับสนุนแบรนด์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดและความ
ปลอดภัยของผู้บริโภคทั่วโลก บริการของเราสอดคล้องกับกฎระเบียบสำคัญระดับโลก ซึ่งรวมถึงอนุสัญญาสตอกโฮล์มว่าด้วยสาร POPs กฎระเบียบ REACH และ POP ของสหภาพยุโรป มาตรา 65 ของรัฐแคลิฟอร์เนีย และข้อจำกัดเฉพาะอื่นๆ ของสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ เรายังมีห้องปฏิบัติการและผู้เชี่ยวชาญที่ทันสมัยทั่วสหรัฐอเมริกา ยุโรป จีน และอินเดีย ควบคู่ไปกับเครื่องมือขั้นสูง เช่น high-resolution mass spectrometry เราจึงให้บริการทดสอบ PFAS ที่รวดเร็ว แม่นยำ และเกี่ยวข้องทั่วโลก การทดสอบ PFAS ช่วยให้คุณสามารถนำทางด้านกฎระเบียบ PFAS ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาได้อย่างประสบความสำเร็จ
IMPACT NOW เพื่อความยั่งยืน
การทดสอบ PFAS เป็นบริการหลักภายใต้ โครงการ IMPACT NOW เพื่อความยั่งยืน ของเรา ซึ่งรวบรวมแนวทางภายใต้ 4 เสาหลักเชิงกลยุทธ์ ได้แก่ สภาพภูมิอากาศ ธรรมชาติ การรับรอง ESG และวัฏจักร ภายใต้เสาหลักธรรมชาติ เรานำเสนอแนวทางที่ใช้งานได้จริงเพื่อตรวจจับและประเมิน PFAS ซึ่งช่วยให้การตัดสินใจดีขึ้น ปฏิบัติตามกฎระเบียบ และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม เป้าหมายของเราคือการส่งเสริมให้ธุรกิจต่างๆ สามารถขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมาย และตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของหน่วยงานกำกับดูแล ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
IMPACT NOW เพื่อความยั่งยืนสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะสร้างอนาคตที่เป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศ เป็นธรรมชาติเชิงบวก และปราศจากมลพิษ
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ PFAS ของเรา สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและการดูแลร่างกาย
เกี่ยวกับ SGS
SGS คือ บริษัทชั้นนำระดับโลกด้านการทดสอบ การตรวจสอบ และการรับรองระบบ เราดำเนินงานผ่านเครือข่ายที่ประกอบด้วยห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์และสถานประกอบการกว่า 2,500 แห่ง ใน 115 ประเทศ โดยได้รับการสนับสนุนจากทีมงานมืออาชีพที่มีความมุ่งมั่นกว่า 99,500 คน ด้วยประสบการณ์กว่า 145 ปีแห่งความเป็นเลิศในการให้บริการ เราผสานความแม่นยำและความเที่ยงตรงที่เป็นเอกลักษณ์ของบริษัทสวิส เพื่อช่วยให้องค์กรต่างๆ บรรลุมาตรฐานสูงสุดด้านคุณภาพ การปฏิบัติตามข้อกำหนด และความยั่งยืน
คำมั่นสัญญาของแบรนด์เรา – when you need to be sure – สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในความน่าเชื่อถือ ความซื่อสัตย์ และความไว้วางใจ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างมั่นใจ เราภูมิใจนำเสนอบริการจากผู้เชี่ยวชาญของเราภายใต้ชื่อ SGS และแบรนด์เฉพาะทางที่ได้รับความไว้วางใจ เช่น Brightsight, Bluesign, Maine Pointe และ Nutrasource
SGS เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ SIX Swiss Exchange ภายใต้สัญลักษณ์ SGSN (ISIN CH1256740924, Reuters SGSN.S, Bloomberg SGSN:SW)
238 TRR Tower, 19th-21st Floor, Naradhiwas Rajanagarindra Road,
Chong Nonsi, Yannawa, 10120,
กรุงเทพ, ประเทศไทย

