ความแตกต่างระหว่าง ISO 14046 และ ISO 46001 และการเลือกมาตรฐานที่เหมาะสมกับธุรกิจ

สำหรับธุรกิจ การนำมาตรฐานด้านความยั่งยืนมาใช้อาจเป็นก้าวสำคัญในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานด้านการจัดการน้ำ สองมาตรฐานที่ได้รับความนิยมในด้านนี้คือ ISO 14046 และ ISO 46001 แม้ว่าทั้งสองมาตรฐานจะมุ่งเน้นด้านความยั่งยืน แต่ก็มีขอบเขตและการประยุกต์ใช้ที่แตกต่างกัน ในบทความนี้ เราจะสำรวจความแตกต่างหลักระหว่างสองมาตรฐานนี้ และให้คำแนะนำในการเลือกมาตรฐานที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของท่าน

ISO 14046 เป็นมาตรฐานสำหรับการประเมินรอยเท้าน้ำ ซึ่งวัดปริมาณน้ำที่ใช้โดยตรงหรือโดยอ้อมจากผลิตภัณฑ์ บริการ หรือองค์กร มาตรฐานนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่พึ่งพาทรัพยากรน้ำอย่างมาก หรือมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมีนัยสำคัญจากการใช้น้ำ โดยการนำ ISO 14046 มาใช้ องค์กรสามารถระบุพื้นที่ที่ต้องปรับปรุงและพัฒนากลยุทธ์เพื่อลดรอยเท้าน้ำได้

ในทางกลับกัน ISO 46001 เป็นมาตรฐานสำหรับการจัดการน้ำ ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การจัดการทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพภายในองค์กร มาตรฐานนี้ครอบคลุมกระบวนการจัดการน้ำทั้งหมด ตั้งแต่การนำน้ำมาใช้จนถึงการบำบัดและกำจัด ISO 46001 เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการแนวทางการจัดการน้ำแบบองค์รวม เช่น ผู้ประกอบการในพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำ หรือมีความต้องการใช้น้ำสูง

ความแตกต่างหลักและเกณฑ์การเลือก

ความแตกต่างหลักระหว่าง ISO 14046 และ ISO 46001 อยู่ที่ขอบเขตและจุดสนใจ:

• ขอบเขต: ISO 14046 จำกัดเฉพาะการประเมินรอยเท้าน้ำ ในขณะที่ ISO 46001 ครอบคลุมกระบวนการจัดการน้ำทั้งหมด
• จุดสนใจ: ISO 14046 มุ่งเน้นไปที่การวัดและลดการใช้น้ำ ในขณะที่ ISO 46001 เน้นการจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพและการอนุรักษ์ทรัพยากร

เมื่อเลือกมาตรฐานที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของท่าน ให้พิจารณาเกณฑ์ต่อไปนี้

1. การดำเนินธุรกิจ: หากธุรกิจของท่านพึ่งพาทรัพยากรน้ำอย่างมาก หรือมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมีนัยสำคัญจากการใช้น้ำ ISO 14046 อาจเหมาะสมกว่า
2. การจัดการน้ำ: หากธุรกิจของท่านต้องการแนวทางการจัดการน้ำแบบครบวงจร รวมถึงการนำมาใช้ การบำบัด และการกำจัด ISO 46001 น่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า
3. ข้อกำหนดตามกฎระเบียบ: ตรวจสอบว่ามีข้อกำหนดตามกฎระเบียบหรือมาตรฐานอุตสาหกรรมที่บังคับให้ต้องนำมาตรฐานใดมาตรฐานหนึ่งมาใช้หรือไม่